ท่องเที่ยววัด ภูฤาษี หรือ วัดพูสี ที่หลวงพระบาง

วันนี้เราก็ได้เดินทางเข้ามาถึง ณ สถานที่วัด พระธาตุพูสี ในยามเย็นของหลวงพระบาง สำหรับวัดพระธาตุพูสีเป็นยอดเขาที่มีความสูงประมาณ150เมตรได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2337  ซึ่งในอดีตนั้นสถานที่แห่งนี้ได้เคยมีฤาษีเข้ามาอาศัยอยู่ชาวบ้านต่างได้พากันเรียกกันว่า ภูฤาษี และต่อมาจึงได้เรียกกันว่าพูสีจนถึงในปัจจุบัน พระธาตุพูสีตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง

ซึ่งในขณะที่เราได้เดินเล่นอยู่ภายในเมืองก็สามารถมองเห็นยอดของพระธาตุได้อย่างเด่นชัดและเมื่อได้ขึ้นมาบนยอดของพระธาตุแล้วในจุดนี้มันก็ได้เป็นจุดที่ทำให้มองเห็นเมืองหลวงพระบางได้โดยรอบเราได้ใช้ช่วงระยะเวลาสุดท้ายของแสงอาทิตย์ให้มันได้หมดไปกับวิวของพระธาตุพูสีในยามเย็นในยามค่ำคืนที่ไม่ไกลไปจากวัดพระธาตุพูสีถนนคนเดินหลวงพระบางไนท์มาร์เก็ตก็ได้

สะดุดตาทำให้เราต้องลงจากมอเตอร์ไซค์เพื่อเข้ามายังตลาดต้องยอมรับว่าจากภาพแรกที่ผมได้มองเห็นนั้นเราคิดว่าภายในตลาดมันคืองานวัดแต่เมื่อได้ดูงานแสดงโชว์ของสาวลาวบนเวทีและได้เพลินไปกับCarnival เล็กๆของที่นี่เราก็พึ่งจะสังเกตว่าไม่มีวัดอยู่ที่นี่แต่สิ่งที่มีนั้นมันคงจะเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็กๆ

ซึ่งได้เป็นภาพแห่งความสุขที่ไม่ต่างจากประเทศไทยเท่าไหร่นัก ในอดีตอันเลือนลางของเราในวัยเด็กความทรงจำเก่าๆของพ่อของเรามันก็ได้ผุดขึ้นมาภาพที่มันได้หมุนไปกับแสงสีชมพูแต่จุดศูนย์กลางที่เราได้มองนั้นคือพ่อที่นั่งอยู่เพียงลำพังและได้นั่งมองเราที่กำลังนั่งอยู่บนม้าหมุนด้วยสายตาที่เลื่อนลอยคงจะเป็นภาพเก่าเก็บที่เราเกือบจะลืมมันไปแล้ว

เพราะในช่วงวัยรุ่นเราไม่ค่อยยสนิทกันเท่าไหร่มันอาจจะเหมือนกันวัยรุ่นหลายๆคนที่มีเพื่อนเป็นคำตอบของชีวิตจนความทรงจำขยะของเรานั้นได้เข้ามาแทนที่ความทรงจำที่มีค่าของเราไปบ้างเราได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ในระแวกได้มีน้าคนหนึ่งในแนะนำให้เรามาเที่ยวร้านที่มีชื่อว่าราตรีเมืองซัว สิ่งแรกเลยที่ได้ทำให้แปลกใจและประทับใจที่สุด

ตั้งแต่ได้เข้ามาถึงยังสถานที่ของหลวงพระบางคงจะเป็นจังหวะในการเต้นบาสโลบของสาวๆลาวและชาวบ้านที่ได้มาเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้ึความน่ารักและความพร้อมเพรียงของวัฒนธรรมมันเป็นสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะได้พบในร้านกินดื่มแห่งหนึ่งในหลวงพระบางทำให้ช่วงค่ำคืนนี้ของเรามีรอยยิ้มที่ไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ได้

 

สนับสนุนโดย  letou